How to get free YouTube subscribers, likes and views?
Get Free YouTube Subscribers, Views and Likes

ฝึกจิต *ว่าง* หยุดคิด มองโลกด้วย 'ความว่าง' หนทางพ้นทุกข์ เสียงธรรม โดยหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปที

Follow
Ami & Joe Happy TV

แบ่งปันเสียงธรรม หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปที เรื่อง ฝึกจิต ปล่อยวาง หยุดคิด

ประวัตพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป พระอริยสงฆ์ผู้มีปัญญาเปรียบดั่งดวงประทีป

“พระอริยสงฆ์ผู้มีปัญญาเปรียบดั่งดวงประทีป“

กว่าที่หลวงปู่เปลี่ยนท่านจะได้มาเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ท่านต้องฝ่าฟันอะไรมามากมายนัก ไม่ใช่แค่ตอนบวชศึกษาธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์หรือตอนเที่ยววิเวกออกธุดงค์เท่านั้น แต่สำหรับท่านยากเย็นตั้งแต่ก่อนจะได้บวชเป็นพระเลยทีเดียว จากประวัติของท่านมีบันทึกไว้ว่า

เมื่อวันพฤหัสบดี ปีระกา ตรงกับวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๖ ณ บ้านโคกคอน ตำบลโคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร คุณพ่อกิ่งคุณแม่อรดี วงษาจันทร์ ซึ่งประกอบอาชีพค้าขาย ได้ให้กำเนิดทารกน้อยเพศชายคนที่ ๓ ชื่อว่า เด็กชายเปลี่ยน วงษาจันทร์ และด้วยความคุณตาและคุณยายรักหลายชายคนนี้มาก เด็กชายเปลี่ยนจึงถูกรับตัวมาเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก

“พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่า วิริเย ทุกขมัจเจติ คนจะก้าวล่วงทุกข์ไปได้เพราะความพากเพียร การจะมีความเพียรอยู่ตลอดต้องมีอิทธิบาท ๔ เป็นหลัก

คือ ฉันทะ ความพอใจ วิริยะ ความพากเพียร จิตตะ ความเอาใจฝักใฝ่ และวิมังสาคือการตรึกตรองดูเหตุผลในการปฏิบัติของตนให้ถูกต้อง”

พระอาจารย์เปลี่ยนท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อแสวงหาโมกขธรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ล้วนแล้วแต่เคยเป็นเส้นทางเดินธุดงค์ของท่านมาแล้วทั้งนั้น พ่อแม่ครูอาจารย์ที่ท่านอยู่ฝึกปฏิบัติและอยู่รับใช้อย่างใกล้ชิดก็เช่น หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม หลวงปู่แหวนสุจิณโณ เป็นต้น

สำหรับพ่อแม่ครูอาจารย์องค์อื่นที่พระอาจารย์เปลี่ยนได้เดินทางไปพบและขอคำแนะนำ ก็ล้วนแล้วแต่ให้ความเมตตาและช่วยสั่งสอนอบรมจนท่านมีความก้าวหน้าในการปฏฺบัติธรรมยิ่งขึ้นก็มีเช่น พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่คำดี ปภาโส หลวงปู่ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์วัน อุตตโม ฯลฯ

ท่านเล่าว่าได้พบพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ กำลังปฏิบัติธรรมอยู่บนต้นไม้ในเหวลึก ท่านว่าต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นไม้ที่ขึ้นมาจากก้นเหวข้างล่างและสูงจนเลยสันเขา

พระอาจารย์จวนท่านได้ใช้ไม้สองแผ่นพาดไปที่ต้นไม้ โดยองค์ท่านได้ไปนั่งและนอนเพื่อปฏิบัติธรรมอยู่ตรงกิ่งไม้ที่ได้พาดไว้ เมื่อพระอาจารย์จวนทราบความประสงค์ของท่าน ท่านจึงได้พูดธรรมะให้ฟังสั้นๆ ว่า

“เธอนี้มันติดสมมุติ ต้องเปลี่ยนสมมุติให้รู้ ข้ามสมมุติให้ได้”

“บวชแล้วก็ต้องมุ่งมั่นปฏิบัติอย่างจริงจัง สิ่งแรกที่ควรมีคือความศรัทธา เพราะศรัทธาคือหนทางนำไปสู่การปฏิบัติ แต่ศรัทธาควรอยู่ในความพอดีเพราะถ้ามีมากไปปัญญามันจะไม่เกิด”

ท่านเล่าว่าท่านได้เคยถามหลวงปู่เทสก์ในเรื่องของการนั่งสมาธิว่าเวลาที่ท่านนั่งสมาธิจิตของท่านจะดิ่งลงลึกโดยที่ตัวท่านเองก็ไม่ทราบว่าจิตอยู่ที่ไหน

หลวงปู่เทสก์จึงได้ชี้แจงว่า อาการเช่นนี้เขาเรียกว่า “นิพพานพรหม” เป็นอาการที่จิตดับจนกระทั่งไม่ได้ยินเสียง ไม่รับรู้อะไรจากภายนอก ถ้าไม่แก้ไขผู้นั้นก็จะคิดว่าตนเองได้พบพระนิพพานและจะไปไหนไม่รอด

หลวงปู่ขาวเองท่านก็ไม่ทราบว่าจิตของท่านไปอยู่ที่ไหน จึงได้ไปถามหลวงปู่มั่นและท่านก็ได้รับคำตอบสั้นๆ นิดเดียวเช่นกันว่า.. “ให้ไปตั้งต้นใหม่ ติดตามดูจิตตั้งแต่เริ่มเข้าสมาธิ ใช้สติปัญญาตามดูจิตให้ดีว่า วางอารมณ์อะไรจึงดับเสียงไปหมด ให้ดูว่าจิตไปอยู่ที่ไหนต้องตามให้รู้”

ท่านว่า “นี่แหละที่เขาเรียกว่าศรัทธาต้องอยู่คู่กับปัญญา”

“พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าไม่ให้พวกเราตั้งอยู่ในความประมาทของชีวิต ถึงเราจะเป็นคนหนุ่มก็ตาม คนแก่ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างหรือธรรมะทั้งหลายรวบรวมลงไปในความไม่ประมาท ก็คือเมื่อคนไม่ประมาทในชีวิตของตน ไม่ประมาทในวัยของตน บุคคลนั้นย่อมปฏิบัติคุณงามความดีได้อย่างเต็มที่ การตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ก็คือ ตั้งอยู่ในความดีตลอด ไม่คิดทำความชั่ว คนนั้นแหละจะเป็นคนที่เจริญที่สุด แม้แต่จะเป็นพระ องค์ไหนไม่ประมาท องค์นั้นก็จะบรรลุธรรมก่อนเพื่อน คนเราจะพ้นทุกข์ได้ก็เพราะความไม่ประมาท”

นิมิตหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ มาหาที่บ้านปง

สมัยที่พระอาจารย์เปลี่ยน ได้มาวิเวกอยู่ปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์อรัญญวิเวกบ้านปงนั้น หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ได้เมตตามาหาท่านในนิมิต หลวงปู่แหวนท่านห่มผ้าแบบเฉวียงบ่า คลุมสังฆาฏิเรียบร้อย มายืนตรงบันไดกุฏิที่พัก หลวงปู่แหวนท่านสอนว่า

“ให้เร่งภาวนาให้ถึงนิพพานในภพนี้ให้ได้ ขณะนี้ยังภาวนาไม่ดี ให้ภาวนาไปเรื่อยๆ”

“ธรรมดาการเจริญภาวนาของคนเรา ถ้ายังมีทิฐิมานะแข็งกระด้างอยู่ การภาวนาก็ไม่สามารถทำให้สงบได้ง่ายๆ เพราะจิตใจแข็งกระด้าง”

ในขณะนั้นพระอาจารย์เปลี่ยนกำลังสร้างวิหารหลังเก่าอยู่หลวงปู่แหวนจึงเตือนท่านว่า

“ควรหยุดก่อสร้างสิ่งต่างๆ สิ่งที่ควรจะสร้างคือ จิตใจของเราเพื่อความหลุดพ้น ไม่ต้องทำอะไรหรอกอยู่บ้านปง เพราะเป็นบ้านปลง ไม่ใช่บ้านโป่ง ท่าบ้านโป่งมันก็สะดวกสบาย บ้านปงต้องทำให้เหมือนกับว่าอยากจะปลงมันทิ้งเพราะเราตกอยู่ที่ลำบากที่ทุกข์ ไม่มีใครที่อยู่ได้ มีแต่เราสองคนเท่านั้นที่อยู่ “

“ท่านจะต้องพิจารณาดูที่ตัวท่าน กายของท่าน ให้พิจารณาร่างกาย เมื่อตายไป ธาตุลมก็หายไป ธาตุไฟก็หายไป ธาตุดินเมื่อเผามากๆ เข้าก็กลายเป็นฝุ่น ในที่สุดก็หายไปอีกเช่นกัน ร่างกายของเราก็ตกอยู่ในห้วงของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว เราก็น้อมจิตของเราเข้ามา โอปะนะยิโก น้อมธรรมเข้ามาที่ตัวเองมาดูร่างกายเสร็จแล้ว ให้ใช้ปัญญาพิจารณาดูจิต อารมณ์ทุกข์สุขนี้ มันอยู่ในไตรลักษณ์เหมือนกัน

สังเกตให้ถูกให้ดี

ที่มาข้อความจาก เว็ปไซต์ 108 กระเกจิ

posted by acentualfg